นกที่ไม่หยุดบิน

แด่เชือกเส้นหนึ่ง ซึ่งในเวลาต่อมา ล้มเหลวที่จะกลายเป็นความสัมพันธ์

.

คุณเองมิใช่หรือที่เคยกล่าวว่า “ เมื่อกระหาย จงดื่มมันขณะที่กำลังร้อน “
และฉันเองที่จ้องตาเขม็งและย้อนถามกลับไปว่า “ เธอกำลังหมายถึง “
คุณตอบ “ ชีวิต “

.

ไม่มีใครเคยบอกคุณเลยหรือว่า ความรักความแค้นคือส่วนขยายของนวนิยายเล่มหนึ่ง ที่คุณเคยเข้าใจผิดคิดว่า มันได้จบลงไปแล้วอย่างสมบูรณ์แบบ ตลอดกาล และ ตลอดไป

.

ผมรู้สึกว่า
ผมอาจจะชอบคุณ
และนั่น อาจเป็นเหตุผลที่
ทำให้
ผมไม่ชอบตัวเอง

.

ผมชอบคุณ ประโยคที่พลุ่งพล่านและการเขียนขึ้นในคราวเดียวโดยไม่ย้อนกลับไปแก้ไขมันอีก
ถูกแล้ว เหมือนกับวิธีที่ผมมองโลก เหมือนกับแววตาของคนที่ต้องเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันทันใด
มุมมองของผมที่มีต่ออนาคตและคุณ ก็ยังมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง
ถูกแล้ว ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงเหล่านี้ได้
ไม่สำคัญหรอกว่า ผมจะต้องล้มลงอีกกี่ครั้ง บาดแผลเหล่านั้น จะไม่หยุดผมไว้กับความไม่แน่ใจ
ประโยคที่พลุ่งพล่านและการเขียนขึ้นในคราวเดียวโดยไม่ย้อนกลับไปแก้ไขมันอีก ผมชอบคุณ

.

คุณถามผมว่าทำอะไรได้บ้าง
ผมบอก
จูบปากที่ตะโกนของคุณ

.

กาลเวลาที่ไหลเวียนอยู่รอบๆตัวเธอ
มีความสลับซับซ้อนมากกว่าที่อื่นใด
และอย่างที่ผู้คนพูดกันว่า
สิ่งที่ใช้ชีวิตแลกเปลี่ยนไม่ได้
ย่อมไม่มีใครต้องการ
วิญญาณจึงถูก
สับเปลี่ยนกับชีวิต
แต่ไม่อาจหลอมรวม

.

เธอขอให้ฉันทำในสิ่งที่น่าละอาย ขอให้ละเว้นจากความรู้สึกถูกผิดดีชั่ว
ไม่อยากให้ฉันรู้สึกจริงๆหรือว่า
คุณมีอยู่จริง
ไม่อยากให้ฉันรู้สึกจริงๆหรือว่า
คุณไม่ใช่นามธรรม

.

ผมคิดว่า
ผมสมควรตาย
การจูบที่ต่อเนื่อง
จำเป็นต้องหายใจด้วยเหงือก

.

ในเสียงกรีดร้องของคุณ ไม่มีผมเลย ฤดูหนาวสวยงาม ผมเป็นเพียงส่วนเล็กๆของมัน / บทกวีของคุณ เหมือน ฤดูใบไม้ผลิ ที่ผมไม่รู้จัก / อากาศหนาว แต่ตัวคุณลุกเป็นไฟ มือผมเย็นเฉียบ / ความงามของคุณมีพื้นเพมาจากดอกกุหลาบ ผมมีมือ แต่ไม่ระวัง /ความคิดถึงคุณ แปะอยู่บน ความเปราะบางของเดือนเมษายน / จู่ๆก็ต้องกินเค้กที่สิ้นสุดลงนี้ ไม่อยากเป่าเทียน / คุณเป็นฮาร์ดแวร์ในแบบแนวนอน บรรจุ 2 ปุ่มกดไว้ แต่ใช้ลิ้นจะดีกว่ามาก

.

และไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม
เธอได้ทำให้
ทุกครั้งที่แหงนหน้าขึ้นมอง
ต้องยอมบ้าคลั่ง เพื่อให้เข้าถึงตัวตนที่ 2 ของเธอ
ต้องยอมลุกไหม้ เพื่อให้รู้ว่า
คำบอกลา แท้แล้ว
ทำร้ายฉันได้อย่างลึกซึ้งและถาวรมากกว่าใคร
เธอคงไม่รู้ว่า
จักรวาลได้ทำให้ปัญหาทั้งหมดของเธอ
เล็กลง
และเกือบจะไร้ความหมายใดๆอย่างสิ้นเชิง
และอย่างสิ้นเชิง
ดวงดาวที่สมบูรณ์แบบ
คือแสงแห่งความตายที่ดับลงแล้วในที่อันห่างไกล

.

ที่รัก โรงเรียนไม่มีค่าพอสำหรับผมอีกต่อไปแล้ว และผมไม่ต้องการมันอีก

ความพยายามที่จะเป็นแม่คนตั้งแต่อายุ 17 กลายเป็นเรื่องเหลวไหลของคนที่ล้มเหลวและไม่มีค่ามากพอตั้งแต่เมื่อไร

ที่รัก ผมหายใจไม่ออก แต่เพราะหนีไปไหนไม่ได้ ผมเลยจมลง กลางมหาสมุทรที่มีแต่คนดำผุดดำว่าย และต่อสู้ที่จะมีชีวิตต่อไป
ผมหายใจไม่ออก แต่ในขณะเดียวกันก็ล่องลอย

จมและล่องลอย ในโลกที่ไร้น้ำหนักของคลื่นควันสีขาวซึ่งม้วนตัวไปมาและทำให้ทัศนวิสัยไม่ชัดเจน

เมื่อไรกันที่หมากฝรั่งเริ่มสูญเสียรสชาติเดิมของมันไป

เพราะพวกเขาห่วยแตก และมันก็ท่วมท้นมาจนถึงที่นี่
ชีวิตที่เหมือนลมหายใจ ก็แค่คล้ายลมหายใจ ที่เหมือนลมหายใจ

หัวใจที่เคยเต้นแรงจนผิดปกติ ตอนนี้มันเริ่มกลับมาเป็นปกติแล้ว

เพราะพวกเขาห่วยแตก และมันก็ท่วมท้นมาจนถึงที่นี่
ชาวประมงรู้จักแต่การเล่นละคร การเป็นชาวประมงที่สมจริง แต่ไม่รู้วิธีหาปลา

โรงเรียนไม่มีค่าพอสำหรับคุณอีกต่อไปแล้ว และคุณก็ไม่ต้องการมันอีก

.

ทุกวัน...ผมตาย และภายในรุ่งเช้า... ผมเกิดขึ้นมาใหม่
บริบูรณ์อยู่ภายในวัฏฏะทรงกลมดำมืดที่น่าสงสารและปั่นป่วน

.

เพราะรู้ดีว่าความรู้มีอคติในตัวเอง บะหมี่ 1 เส้น ของจวงจื้อ จึงยาวได้หลายพันไมล์ แต่ขมวดอยู่ใน บะหมี่ก้อนเดียว
ความทรงจำของกล้ามเนื้อ แม้เลอะเลือน แต่การควบคุมมีดของเขา กลับเป็นธรรมชาติดุจเดียวกับลมหายใจ
แทนที่จะเป็นจอกแหน เขากลับแหวกว่ายอยู่ในกระแสความคิด
ที่พัดอยู่ไม่รู้ฤดู
ยังหมายถึงประสบการณ์ที่ไร้ราก
ตลอดมา (อีกด้วย)
บะหมี่ 1 ก้อน เขาพูด
แทนที่จะเป็นก้อนหิน เขากลับแหวกว่ายอยู่ในกระแสความคิด
จวงจื้อฝันว่าร่ายรำเป็นผีเสื้อตัวนั้น หรือว่าผีเสื้อตัวนั้นร่ายรำจนกลายเป็นจวงจื้อกันแน่นะ
ไม่มีใครรู้แน่ แม้แต่ความฝัน
จวงจื้อไม่ใช่เจ้าของ

.

ยามเช้าเช่นนี้ กราบพระพุทธเจ้า ทั้ง 4 ทิศแล้ว จงก้มลงกราบผู้ให้ชีวิตเจ้าด้วย จงก้มลงกราบการละเมิดที่ทำให้ชีวิตบังเกิดขึ้นด้วย บ่อน้ำแห่งทุกข์ บึงแห่งทุกขเวทนา ที่เจ้าอาบและตักดื่ม ชำระกายโสมม จนเจ้ายึดติด รูปโฉมอันไม่เที่ยงก็ทางหนึ่ง ดื่มกินจนกลายเป็นตัวตนแห่งทุกข์ที่เติบใหญ่ขึ้นทุกวันก็อีกทางหนึ่ง

ยามเช้าเช่นนี้ กราบพระพุทธเจ้า ทั้ง 4 ทิศแล้ว จงก้มลงกราบผู้ให้ชีวิตเจ้าด้วย วัฏฏะสงสารที่เจ้ามิอาจหยุดเวียนว่าย ก็เป็นดุจเดียวกับนกที่ไม่อาจหยุดบินในทางหนึ่ง เมื่อละความมุ่งหวังแล้ว ก็ปราศจากภาพลวงตาอีกทางหนึ่ง เมื่อละหนทางแห่งพุทธ ก็เท่ากับเจ้าค้นพบเส้นทางโดยปราศจากการแสวงหาเส้นทาง อันเป็นบันไดเวียนมุ่งตรงเข้าสู่โลกภายในอีกทางหนึ่ง

กราบพระพุทธเจ้า ทั้ง 4 ทิศแล้ว จงก้มลงกราบผู้ให้ชีวิตเจ้าด้วย จงก้มลงกราบการละเมิดที่ทำให้ชีวิตบังเกิดขึ้นด้วย

.

ผมมาที่นี่
เพราะเรื่องๆเดียว
ตะโกนผ่านปากของคุณ

.

นั่นคือสิ่งที่ฉันถนัดจริงๆ
บทบาทของคนโง่ที่ทำให้เธออ่อนแอลงทีละน้อย

.

คุณค่าของความจงรักภักดีซึ่งจัดแสดงตัวเองอยู่ในดวงตาคู่หนึ่งที่คุณพยายามหลบหนีหรือหลีกเร้นตลอดมา

.

และหล่อนก็ฉลาดพอ
ที่จะทำให้ระยะห่างนั้นอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ตลอดไป

.

และถ้าหากความพยายามนั้น
มากไปกว่านี้อีกสักหน่อย
ก็จะดูคล้ายกับว่า หล่อนกำลังสูญเสียความไว้วางใจที่มีต่อตัวเอง ความเคารพตัวเอง แบบที่คนแบบหล่อนสมควรจะต้องมี

.

เข้ามาใกล้เกินไปแล้ว
อีกเพียงนิดเดียว (หล่อนตระหนักดีว่า)
กำลังสูญเสีย
ความเป็นตัวเองไปตลอดกาล

.

คุณบอกว่า
วิธีแต้มริมฝีปากแบบนั้น
วิธีมองแบบนั้น
วิธียิ้มแบบนั้น
มันทำให้คุณอยากรู้
หล่อนถามว่าอยากรู้อะไร
คุณตอบว่า
วิธีจูบของคุณ

.

หายใจไม่ออก
และรู้สึกเบาโหวง
ซึ่งปกคลุมเหนือช่องท้อง
ตลอดรวมไปจนถึง
วิธีปฎิเสธที่อ่อนหวาน
ซึ่งหากใช้มันผิดๆเสียแล้ว
ก็รังแต่จะสร้างความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องซึ่งมีต่อตัวเธอเองต่อไป

.

แม้ไม่ได้พูดมันออกมา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า
แม้ไม่ได้พูดมันออกมา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า

.

ไม่ทันระวัง
จูบที่ดื้อดึง
กลับกลายเป็นการตอบสนองที่ทำให้เธอเข้าใจในตัวฉันแบบผิดๆตลอดไป
ที่จริงแล้ว เธอย้ำ
ฉันคงคิดมากเกินไป
เพียงเพราะหัวใจไม่เคยเต้นแรงแบบนี้มาก่อน
ไม่อาจทำให้ความรักปรากฏตัวเป็นจริงขึ้นมาได้
สูญเสียทั้งการควบคุมและการตอบสนองที่ทำให้เด็กหนุ่มคนหนึ่งเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับตัวเธอตลอดไป
.
แถวของฟันที่ชิดและเรียงติดกันอย่างเป็นระเบียบนั้น
สะท้อนประกายบางอย่างที่คุณไม่อาจลังเล

.

ขอเพียงแต่ได้โบยบิน
ไปกับคุณ
ตามฉันมา
คุณบอก
ถึง(ต้อง) ย้อนแสง (จะ)ฝืนลืมตา
แม้ว่า พายุและลมฝน จะคอยปัดกวาด เรี่ยวแรงแห่งความทะเยอทะยานซึ่งขาดความสมจริง (อยู่ค่อนข้างมาก) ออกไป อยู่ตลอดเวลาและอย่างต่อเนื่องก็ตาม

.

ผมอยู่กับสิ่งนั้น
บ่อยครั้ง คุณก็รำพึงรำพันแบบนี้
จนเรียกว่าความโดดเดี่ยว
ความโดดเดี่ยว ความคิด ความอะไรก็แล้วแต่
ถ้าได้คุยกับใครสักคน
แมวสักตัว
ต้นไม้สักต้น
ผมมีชีวิตอยู่แค่นัั้น
ผมว่า
คุณคงโชคดี
เมื่ออยู่กับผู้คน มากเข้า ผมบอก ผมโดดเดี่ยว ผมทุรนทุราย
คนที่ผมโหยหามากที่สุด และมักมองหาไม่เห็น
คือตัวผมเอง ตัวผมเองในมุมอันเงียบงันหมดจดสักมุมหนึ่ง
ผมเงียบไปสักครู่ จึงหันไปหาคุณ
ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ถูกมั้ย
ผมถามกลับ
และบางมุม ความคิดที่เราอาจควบคุมไม่ได้
ในความโดดเดี่ยว
คุณพูดต่อ
มันไม่สมบูรณ์แบบใช่มั้ย
อย่างน้อย ผมก็ได้แลกเปลี่ยน
กับคุณ
ความคิดที่เราควบคุมมันไม่ได้ ผมทวน คำพูดของคุณ อีกครั้ง ผมตอบ ระเบียบแบบแผนที่ควบคุมการคิดของเราอีกทีต่างหาก ที่ผมสนใจ
คุณหัวเราะ ผมบอก
ผมไม่ได้เล่นลิ้น แต่ทั้งสองอย่างนี้ ไม่เหมือนกันแน่ๆ

.

เส้นโค้งที่งดงามที่สุดวางอยู่บนริมฝีปากและหน้าอกของคุณ
ผมกำลังทำให้มันเลอะเทอะด้วยมันสมองเพี้ยนๆของกวางตัวผู้

อย่ากลัว
ที่ความงามจะเป็นทั้งสิ่งจริงและมายา

น้อยเกินไป
ความคิดถึงที่ปรากฎอยู่บนเส้นโค้ง
และรอยหยัก
บาดแผลที่ตรงกึ่งกลางหว่างขาของคุณ
มีหยาดน้ำตาสีขาว

.

ทุกครั้งที่เขียนถึงคุณ ประโยคที่สั้นที่สุด จะต้องกลายเป็น เส้นขอบฟ้าของประโยคที่ยาวที่สุด
และกลายเป็น การย่อความแบบผิดๆของนักเรียนที่ถึงแม้จะเรียนจบไปเนิ่นนานแล้ว
ก็ยังขาดชั่วโมงเรียนที่มีคุณภาพของการย่อความอยู่ดี

ผมพยายามแล้ว แต่ความพยายามไม่ช่วยอะไร เช่นเดียวกับความกล้าหาญ ที่ล้มเหลว
เมื่อต้องไหลออกมากองรวมกับ ถุงกางเกง ที่เคยพยุงอัณฑะโง่ๆของคุณเอาไว้

เช่นเดียวกับหนองซึ่งถูกขับออกมา เมื่อมันสื่อสารอะไรกับร่างกายไม่ได้
ผมเขียนถึงคุณไม่ได้อีกเลย ไม่ได้อีกแม้ประโยคเดียว
จะสบทหรือก่นด่า นั่นก็เป็นแค่ การกระทำลับหลัง ซึ่งไม่มีค่ามากพอสำหรับคุณ
ที่แม้แต่จะเงี่ยหูฟัง จากอีกด้านของผนังชีวิตที่คุณไม่คุ้นเคย

ทุกครั้งที่เขียนถึงคุณ ความก้าวร้าวที่ไร้สาเหตุนั้น
มิได้บ่มเพาะขึ้นจากสิ่งใดเลย นอกจากภาพลักษณ์ที่อ่อนแอ ซึ่งเป็นแง่มุมเฉพาะ ลำพังก็แต่คุณเท่านั้น
ที่สามารถแลเห็นมัน (ฉันควรจะพูดด้วยไหมว่า อย่างแท้จริง)

.

บทกวีที่ดี คือการปฏิเสธ ถ้ามันอยากเล่า เรื่องเล่าในจังหวะจะโคนของมันจะกลายเป็นอมตะ แต่ความเป็นอมตะ ไม่รู้จักความล้มเหลว
ฉะนั้นคุณค่าของคำถามที่มีต่อความสมบูรณ์แบบ จึงไร้จุดบกพร่อง (แต่ก็อย่างที่บอก สิ่งที่ผมเอ่ยกับคุณ ไม่ได้หมายความตามที่พูด เช่นกัน บทกวี ก็ไม่ได้หมายความตามที่เขียน)
บทกวีที่ดี คือการปฏิเสธ ถ้ามันบอกเล่า มันจะบอกเล่าด้วยประโยคที่ไม่เป็นรูปประโยค
ถ้ามันตั้งคำถาม เราจะผิดหวังที่ แม้แต่อุดมคติสูงสุดของมัน ยังตกอยู่ในห้วงอันตราย
บทกวีที่ดี คือการปฏิเสธ ถ้ามันเป็นแนวคิด
มันก็เป็นแนวคิดที่
หมกมุ่นอยู่กับการทำให้ความสามารถอันโดดเด่นของตัวเอง
เป็นเรื่องที่ไม่สลักสำคัญ
ถ้ามันเป็นความเชื่อ มันก็เป็นความเชื่อที่
เรียกร้องต้องการ มากเสียยิ่งกว่า สิ่งที่มันได้นำเสนอออกไป

.

จนถึงวันนี้ คุณยังหลงใหลการอ่านหนังสือของศรีบูรพาอยู่หรือไม่
อันนาคาเรนินาฉบับปกแข็งที่คุณชื่นชอบ
และเที่ยวถือไปที่นั่นที่นี่
ป่านนี้
คงเปื่อยผุอยู่ในตู้หนังสือที่ไหนสักแห่ง(ซึ่งไม่มีคุณ)

.

มุมมองที่คุณออกโรงปกป้อง Hanna Schmitz เป็นแง่มุมที่ฉันไม่เคยได้ยินมันมาก่อนเลยด้วยซ้ำไป (ไม่ว่ามันจะถูกต้องหรือไม่ก็ตาม)
ท่าทีที่เอาจริงเอาจังราวกับ เป็นเรื่องของคุณเสียเอง เมื่อการโต้ตอบกัน ระหว่าง สาย สีมา กับ คุณอา อะไรนะ ซึ่งเป็นภาพตัวแทนของทุน และกลุ่มอำนาจเก่า ไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ
ในภายหลัง ด้วยการแสดงออกที่ยากจะเข้าใจครั้งนั้น
คุณก็ถูกเพ่งเล็งด้วยสายตาแปลกๆของความไม่ไว้วางใจตลอดมา
เมื่อความทรงจำเก่าๆอนุญาตให้เรารำลึกมาถึงตรงนี้ ฉันก็ควรจะถือโอกาสนี้ กล่าวคำว่า ขอบคุณ พร้อมๆกับคำว่า เสียใจ
แม้ว่า มันจะไม่ถูกต้องอีกต่อไปแล้วก็ตาม

.

คุณกำลังอ่าน
อ้อมกอดที่โอบกอดตัวเอง

คุณกำลังอ่าน
รสชาติฝาดคล้าย
จูบอันสลับซับซ้อนของคุณเอง

คุณกำลังอ่าน
กระพือปีกของชีวิต
และความตาย

ขนตายาวและหนา
กำหมัดที่เดียวดาย
กักขังคุณอยู่ข้างใน

คุณกำลังอ่าน
ชายฝั่งหวงห้าม
กำแพงที่มีปืนจ่อ

ขมับที่ขึงตรึงลวดหนาม
หัวใจแทบแหลกเป็นจุณ

คุณกำลังอ่าน
ประกายสุดกลั้น
วิบวับของดวงตา
คุณที่มองเห็นเธอ
แสงดาว
คนนำทาง
คบเพลิงสุดท้ายของวัน
เหมือนปีสุดท้ายของชีวิตอันยาวนาน

คุณกำลังอ่าน
เลือดเนื้อที่มีชีวิตจิตใจ
คุณกำลังอ่าน
ด้านอ่อนแอที่หันหน้าเข้าสู่แสงสว่างที่น่าละอาย

.

มันคือประโยคที่ต่อเนื่องมาจากหนังสือเล่มที่แล้ว
ประโยคที่ยังเขียนไม่จบ
และยังไม่ถูกเขียน
ไวยากรณ์
และวิศวกรรมของข้อตกลง
การอ่านที่ทำให้คุณรู้สึกโง่ มีหนามขึ้นอยู่รอบๆหัว
พลิกตัวกลับไปกลับมา ทบทวนเรื่องราวมากมายของพวกเราตลอดช่วงฤดูร้อน
แววตาที่ทั้งเปราะบางและเย้ยหยันไยไพเหล่านั้น คืออะไรกันแน่
ไม่มีเหตุผลที่จะรัก แต่ผมกลับกอดคุณไว้อย่างละเอียดอ่อน
ลูกสน
พบตัวเองใต้ต้นสน
ผมพบตัวเอง
ข้างๆคุณ
คุณที่เปียกชื้นบนแผ่นแก้มนั้นละเอียดอ่อน
ความเงียบอำมหิตแบบเดียวกับที่มันหยาบคาย
มันคือประโยคที่ต่อเนื่องมาจากหนังสือเล่มที่แล้ว
ประโยคที่ยังเขียนไม่จบ
และยังไม่ถูกเขียน
ก่อนที่จะล้นออกมา
เสียงตะโกน
ซึ่งสะสมพลังอยู่ข้างใน
หน้าอกเล็กๆของคุณ

.

ความหิวของคุณ
โปรดอย่านำมาเปรียบเทียบ
กับมนัส จรรยยงค์

ไม่มีใครที่พี้กัญชาแล้วได้ผลลัพธ์ดุจเดียวกับอนุชาสักคน
คุณหรือผม อย่างดีก็เป็นแค่ เด็ก 'ชนของ'

ปัญญาชนแตกต่างจากกุ๋ย
แล้วกุ๋ยที่พัฒนาตัวเองจนกลายเป็นปัญญาชนล่ะ
โปรดแก้ปัญหาอย่างมีสติด้วยกำปั้น

ในการคัดบทกวี มีมาตรฐานหนึ่งไว้ใช้กับคุณ และอีกมาตรฐานไว้ใช้กับทุกคน

ถูกแล้ว ผมพูด หากยอมรับมาตรฐานหนึ่ง โดยปราศจากข้อยกเว้นเสียแต่แรก(แล้ว)
พวกคุณทั้งหมดก็จะกลายเป็นข้อยกเว้นเสียเอง

คำตอบนั้นสมบูรณ์แบบ ผมเขียนใหม่อีกครั้งหนึ่งว่า คำตอบของผมสมบูรณ์แบบ

ตอนแรก ผมจะใส่ ‘ประโยคสุดท้าย’ ลงใน ‘วงเล็บ’
แต่คิดว่า ‘อย่าดีกว่า’

.

ช่าง ทานข้าวด้วยกันมั้ย
คำถามนี้ คาดหวังคำตอบอีกแบบ

โปรดอย่าเปลี่ยนแปลงระเบียบแบบแผนของการสนทนาโดยมิได้นัดหมาย
สบายดีไหม
สบายดีค่ะ

แม้จนกระทั่งล่วงเลยมาจนถึงเวลานี้
เอาเข้าจริง
รักคุณ
ยังคงยากมากกว่า
รักตัวเอง

เมื่อไตร่ตรองอย่างถ้วนถี่ คงไม่มีใคร เคยใช้คำว่า ‘ผมรักคุณ’ กับผู้หญิงคนนี้มาก่อนแน่ๆ

.

เสียงคุณเหมือนนางในวรรณคดี
ขนตาปลอมดูเข้ากันดีกับตลับแป้ง
ลูกสนแห้งคงเพราะแดดหนาว
แตกกวางสีหวานแต่มีรสเปรี้ยว
คุณชอบดูดวงอาทิตย์
ดวงอาทิตย์ก็ชอบดูคุณ

.

เห็นได้ชัดว่าเธอหลงใหลในตัวเอง

และความรักที่เธอตกเป็นฝ่ายตั้งรับเป็นอย่างเดียว
ได้สร้างความพึงพอใจในคุณค่าบางอย่างที่เธอไม่อาจสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวเองโดยลำพัง

เห็นได้ชัดว่าเธอโหยหาความพึงพอใจ
ยินดีสำหรับทุกอย่างที่จะกลายเป็นบทพิสูจน์ว่าเธอนั้นสำคัญมากเพียงพอ

.

การร่วมรักเป็นส่วนขยายของการจูบ นี่เธอไม่รู้จริงๆน่ะหรือ

.

*การปลดกระดุมอีกเม็ดไม่ใช่เรื่องยาก
แต่กับการที่ฉันคงค้างการกระทำเหล่านั้นไว้ครึ่งหนึ่ง
กลับเป็นเรื่องราวที่สร้างความวุ่นวายหนักใจให้กับเธอ
มากกว่าที่เธอจะคาดไปถึงเสียอีก

.

เชื่อเถอะว่า จะต้องเป็นคุณ
รู้สึกเจ็บ แต่ไม่ได้เจ็บจากการล่วงล้ำเข้ามาของคุณเลยแม้แต่นิดเดียว
เชื่อเถอะ
หลังการแก้แค้นและต่อต้านโลกทั้งใบ
คุณก็ยังโดดเดี่ยวเหมือนเดิมอยู่ดี
ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนไป
ไม่มีสิ่งใดไถ่ถอนตัวคุณ
บรรดาสิ่งที่ติดค้างเหล่านั้น
คงมีอย่างเดียวที่ฉันอยากได้กลับคืน

.

แน่นอน
 แม้จะพูดไม่ได้ว่า
ส่วนที่ก้ำกึ่งก้ำกลางระหว่างความรู้สึกที่ว้าวุ่นใจเหล่านั้นคืออะไรกันแน่

แต่ฉันก็อยากเข้าใจ

.

เป็นไปได้ว่า ภาพลวงตาเหล่านั้น มีลักษณะที่สมจริง ส่วนเธอเองถูกทำให้เชื่อในราคาที่ต้องจ่ายออกไป
เป็นไปได้อีกด้วยว่า ตัวตนในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งกำลังสวมทับเธออยู่นั้น ไม่สามารถทำให้เธอรู้สึกแปลกปลอม
ระหว่างเงาร่างที่แท้จริงของเธอ กับภาพวาดอันสูงส่งของผู้ที่เทิดทูนรักไว้เหนือสิ่งอื่นใด

.

ฉันเคยเห็นความฝัน
ต้องคำสาป
เคยเห็นความปรารถนาที่ไร้สุ้มเสียง
เคยรู้จักความรัก
ทว่าไม่เคยรู้จักเธอ

คุณรู้จักการจูบ
แต่พูดไม่ได้ว่า
รู้จักความรัก
หากไม่รู้จัก
ซอกมุมเร้นลับแห่งเธอ

คุณมุ่งมั่นทำความเข้าใจกับอะไรสักอย่างหนึ่ง
แต่ไม่อาจถ่องแท้เท่ากับมัน
จึงไม่อาจลืมเลือน

ฉันวาดกำแพงไร้สี
ก่อสร้างเจดีย์ขึ้นจากทราย
แต่ไม่อาจเขียนเธอ

คุณมุ่งมั่นทำความเข้าใจกับอะไรสักอย่างหนึ่ง
แต่ไม่อาจถ่องแท้เท่ากับมัน
จึงไม่อาจลืมเลือน

ทำไมต้องเป็นฉันในฝันต้องคำสาป
มีความปรารถนาที่ไร้เสียง
รู้จักการจูบ
แต่ไม่อาจถ่องแท้เท่ากับมัน

ไม่อยากเข้าใจ
ไม่จำเป็น

.

ผมแค่อยากได้ยินเสียงตอบที่ดังมาจากสัญชาตญาณของคุณ
ไม่ใช่เหตุผลที่ทบทวนไตร่ตรอง
ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ภายใต้วันเวลา
ที่มีดวงอาทิตย์ก็ย่อมมีพระจันทร์

คุณทำลายผมไม่ได้หรอก
นอกเสียจาก คุณปรารถนาที่จะทำร้ายหัวใจตัวเอง
เสียงที่คุณถามว่า ฉันไปเอาความมั่นใจแบบนั้นมาจากไหน ยังดังก้องอยู่ข้างในหัวใจที่เปราะบาง
แม้ว่าไม่มีคุณ
แต่ก็ยังมี ดวงอาทิตย์และพระจันทร์ดวงเดิม

ผมแค่อยากได้ยินเสียงตอบที่ดังมาจากสัญชาตญาณของคุณ
ที่ๆมีดวงอาทิตย์และพระจันทร์
ที่ๆมีความมืดมิดและสว่างไสว
อบอุ่นและเหน็บหนาว
ช่วงเวลาที่ความคิดซึ่งเพ้อฝันเกี่ยวกับตัวคุณ
คือความพยายามที่สูญเปล่าของการอธิบายที่ไร้ค่าครั้งหนึ่ง
ทำความเข้าใจผ่านการลูบไล้เปะปะไปบนเนื้อหนัง
ที่คุณยังไม่เข้าใจมันดีมากพอเลยด้วยซ้ำไป

ผมแค่อยากได้ยินเสียงตอบที่ดังมาจากสัญชาตญาณของคุณ
ที่ๆมีดวงอาทิตย์และพระจันทร์
ที่ๆมีความมืดมิดและสว่างไสว
อบอุ่นและเหน็บหนาว
ช่วงเวลาที่ความคิดซึ่งเพ้อฝันเกี่ยวกับตัวคุณ
คือความพยายามที่สูญเปล่าของการอธิบายที่ไร้ค่าครั้งหนึ่ง

.

น้ำเสียงแบบที่แสดงถึงความเคารพและภาคภูมิใจในตัวเองอย่างยิ่งนั้น
ดูช่างเจรจา
เมื่อเราอยู่ใกล้กัน
อะไรคือความสูงส่ง
ห่างเหิน
หลุดลอยจากความธรรมดาสามัญดาษดื่นเท่าที่โลกใบเล็กๆ ใบนี้เคยมี
ถ้าไม่ใช่คุณ
ก่อนที่เราจะรู้จักกัน
ลักษณะเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแบบที่คุณเคยมี
ความเงียบแบบที่ไม่มีใครสามารถอธิบายได้ของคุณ
เกียรติยศในรูปแบบเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งคุณเลือกที่จะหยิบยื่นมันให้กับตัวเองในบางครั้งบางครา
คุณคือเรื่องราวแบบที่มีน้ำเสียงภาคภูมิใจในตัวเอง
อะไรคือความสูงส่ง
ห่างเหิน
หลุดลอยจากความธรรมดาสามัญดาษดื่นเท่าที่โลกใบเล็กๆ ใบนี้เคยมี
ถ้าไม่ใช่คุณ
ก่อนที่เราจะรู้จักกัน

.

ใกล้เกินไป
พบว่ามันไม่ง่ายเลย
ที่คุณบอกว่า
ให้ทำตัวตามสบาย
ห่างกันเกินไป
จนไม่อาจเรียกได้ว่า
ยังมีความหวัง
เดี๋ยวก็ดึงฉันเข้าไปใกล้
จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของคุณ
เดี๋ยวก็ผลักออก
เหมือนแม่เหล็กหมดสิ้นเรี่ยวแรง
จะเอาอย่างไรกันแน่
ไม่สามารถเข้าใจตัวเอง
จะเอาอย่างไรกันแน่
ไม่สามารถเข้าใจคุณ

.
คุณก้มหน้าลงและพูดเบาๆ ถ้ามันทำให้หัวใจเต้นได้ ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธเธอ
คำพูดที่ทั้งจองหองและมั่นใจในแบบที่เป็นคุณหนึ่งร้อยเปอร์เซนต์

.

เส้นผมที่มีกลิ่นของบ้านซึ่งคนเร่ร่อนอย่างฉันไม่มีวันเข้าใจ

.

เมื่อได้รับแต่โอกาส
สิ่งต่างๆจึงดูเหมือนไร้ค่า
เธอจึงไม่จำเป็นต้องอดทนต่อสิ่งใด
กรีดร้องอย่างง่ายๆ
ตระหนกอย่างง่ายๆ
ยอมเป็นลูกนกกระปลกกระเปลี้ยของชายหนุ่มผู้มีจิตใจอ่อนไหวแต่ตื้นเขินสักคนหนึ่ง
ใช้เล่ห์กลแห่งจริตมารยาสักส่วนเสี้ยวหนึ่ง
รำคาญก็แต่ผู้คนมากมาย
เฝ้ามาคุกเข่าอ้อนวอนขอร้องเธอ

ไม่ยาก
เธอก็ตระหนักซึ้งในความจริงข้อนี้
แดดในฤดูหนาวดูอุ่นกว่าความเป็นจริงเสมอ
ความเหงาทำให้คนเราเข้าใจความปรารถนาผิดๆว่าเป็นความรัก
แต่นั่นก็ด้วยว่าเธอ
ยังไม่เคยตระหนักต่อสิ่งจริงแท้จริงๆเลยสักสิ่งเดียว

น่าเสียดาย
เมื่อได้รับแต่โอกาสมากไป
เธอก็คอยแต่จะปฎิเสธมัน
การพูดว่าไม่
ได้กลายเป็นชัยชนะส่วนตัวเล็กๆน้อยๆ
ที่ทำให้เธอเข้าใจตัวเองมากกว่าที่จะพยายามเข้าใจใคร
โลกอาจกว้าง แต่เธอกลับเห็นทุกสิ่งอย่างง่ายดายเหมือนแค่พลิกฝ่ามือ

.

คุณก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
การจากลา สำหรับคุณแล้ว จึงกลายเป็นเรื่องที่ยากเย็นมากขึ้นทุกที

.

หยิบเศษเสี้ยวที่แตกกระจายและแหลมคมเหล่านั้นขึ้นมา
ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นคุณ
จะตกหลุมรักอีกครั้งต้องทำอย่างไร
จะตกหลุมรักคุณอีกครั้งต้องทำอย่างไร
ผมอึดอัด ผมหายใจไม่ออก
ความรู้สึกอ่อนล้าที่คุณไม่ได้เชื้อเชิญ ช่างละม้ายคล้ายคลึงกับความอ่อนแอของผมไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง จนถึงวันนี้ ใบหน้าด้านข้างที่เงียบขรึมของคุณ ไม่ใช่มุมมองของผมคนเดียวอีกต่อไปแล้ว
คุณก็รู้ว่ามันไม่ง่าย แต่ผมก็ยังพยายามอยู่ พยายามที่จะอยู่ต่อไปโดยไม่มีคุณ ผมอึดอัด ผมหายใจไม่ออก
ความรู้สึกอ่อนล้าที่คุณไม่ได้เชื้อเชิญ ช่างละม้ายคล้ายคลึงกับความอ่อนแอของผมไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

.

ผมเริ่มหายใจอีกครั้ง
ด้วยเหงือก ในคราวแรก ผมถึงกับทึ่ง วิวัฒนาการของชีวิตหลังความตาย ในคราวต่อมา ทัศนียภาพจากมุมมองของปะการัง ฉลามและวาฬ ไม่สู้จะสนใจผมเท่าใดนัก
ไม่ใช่เพราะผมตัวเล็กจิ๋ว
แต่ข้อเท็จจริงก็คือ บาดแผลของผมไร้เลือด
ถูกอีก
ผมเริ่มหายใจด้วยเหงือก
เวลาที่ต้องจูบกับเด็กผู้หญิงพวกนั้น เศษผักที่ติดระหว่างฟันซี่เล็กๆของพวกหล่อน
รบกวนจิตใจผู้ชายอย่างพวกเราเสมอ
ผมเริ่มหายใจอีกครั้ง
หากความรักคือการหลับตาข้างหนึ่ง และลืมตาอีกข้างขึ้นเพื่อเผชิญหน้ากับโลก
กลางวันและกลางคืนในมุมมองเดียวกันแบบนี้
ผมไม่เคยเห็นมันมาก่อน

.

ตลอดมา
มันอาจคือคุณ
ผู้เร่ร่อนเซซังไปในความเดียวดาย
ตลอดไป
มันอาจคือฉัน
คนกลุ่มจำพวกที่
ทึกทักเอาว่า
ตนเองนั้นจะไม่ถือโทษโกรธเคืองใดๆกับคุณได้อีก
เอาเข้าจริง ตัวฉันเอง ก็ไม่เคยลงร่องลงรอยกับความความจริงเท็จใดๆได้เลยสักอย่างเดียว
พูดให้ถูก
บางที ตัวฉันเองนั้น
ก็รู้สึกเหมือนกับว่า
ฉันไม่สามารถผลักดันตัวเองได้อีกต่อไป
หรือเป็นแสงเงาให้กับทุกๆด้านของชีวิตของตัวเอง
ชีวิตด้านนอกที่มีแต่มืดคล้ำลงทุกที
ฉันสูญเสียคุณค่าบางอย่างไปในนั้น
จากสิ่งที่ฉันเคยละเลย
หรือจงใจงดเว้นอย่างช่ำชอง
และชีวิตพร่ำบอกกับฉันว่า
ฉันไม่เคยฟังมัน
เสียงของคนนอกรีตที่ผลักดันความโกรธจากการสูญเสียจนกระทั่งไม่สามารถแตกร้าวได้อีกต่อไป
ฉันทำได้ก็เพียงแต่จดจ้องมองย้อนกลับเข้าไป
(ยืนนิ่งไม่ไหวติง หรือไม่อาจก้าวล้ำข้ามผ่าน)
(หรือไม่อาจหันหลังจากลา)
ในสิ่งที่ฉันทำได้ก็เพียงแต่ชื่นชม
และในบางครั้ง ฉันก็บอกกับตัวเองว่า ฉันควรจะพอใจแค่นั้นเอง
ฉันบอกกับตัวเองเสมอมาว่า
ชีวิตมักมีบางสิ่งที่ขาดไป
แต่เมื่อคุณได้มันมา
คุณก็พร้อมจะถูกผลักดันอย่างรุนแรงจากอะไรสักอย่างเพื่อย้อนกลับไปสู่ความสาปสูญและสูญเสียมันอีกครั้งและอีกครั้งนึง
และจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป นั่นก็เพราะอาจเป็นความไม่แน่ใจลึกๆต่อภาพฝันที่สุขสมบูรณ์
หรือไม่ชีวิตก็อาจต้องการแยกฉันออกมา
หรือบางทีมันอาจไม่ต้องการให้ฉันปรากฏอยู่ตรงนั้นอีกต่อไป
ชีวิตที่มันรักฉัน เกลียดฉัน และฉันที่หลงรักมัน เกลียดมัน
เหมือนฉันที่รักคุณแต่ไม่เคยตกหลุมรักใคร


You'll only receive email when they publish something new.

More from Nipon Intarit
All posts