我師傅係黃飛鴻 (2004)
June 26, 2006•193 words
Below is archived from my Exteen blog
[ กลับมาอีกครั้ง ... กับละครฮ่องกง (ฮา)]
我師傅係黃飛鴻 แปลตรงตัวคือ อาจารย์ข้าหว่องเฟห่ง
(เวอร์ชั่นไทย ก็...หวงเฟยหง?)
Wong Fei Hung - Master of Kung Fu (2004)
25 Episodes - TVB Production
(แล้วมันมีเรื่องไหน ที่ไม่ใช่ TVB มั้ย..?)
ส่วนตัว ชอบเรื่องนี้มาก =w=b บอสโก้เล่นได้ดี เหมาะกับบท (พี่แกเหมาะกับบทย้อนยุคมากกว่าปัจจุบัน เพราะแต่งชุดย้อนยุคแล้วดูขึ้น) เรื่องนี้เอฟเฟ็กค่อนข้างจะโอเค ถึงแม้ว่าดูแล้วจะขำๆบ้าง แต่ก็ไม่ได้ใช้ให้มันโอเว่อร์เหมือนเรื่อง Twin Brothers
เรื่องนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบกังฟู เพราะมันค่อนข้างเหมือนจริงทีเดียว (เยี่ยมก็ตรงนี้นี่แหละ)
ตัวละครหลักๆ(ชื่อตัวละครนี่จีนกวางตุ้งงับ) ก็มีหว่องเฟห่ง หว่องเค่ยิ่ง (พ่อหว่องเฟห่ง) โบ๋ยี้ (น้าหว่องเฟห่ง - ฝั่งแม่) ไกวหล่าน (นางเอก) เหลิ่งฟูน ไซเหว่ง อากีน ต่ายสิ่วทีน (อ๊ากก ... จีนฮ่องกงนี่ทรมานพิลึก หาเสียงที่ตรงไม่ค่อยได้)
เรื่องก็เริ่มต้นตรงที่หว่องเคยิ่งเป็นปรมาจารย์กังฟู แต่ว่าถอนตัวจากวงการ... แล้วหันมาเปิดร้านขายยา ซึ่งรักษาโดยใช้กังฟูและสมุนไพรจีน (จะเห็นได้จากที่ลุงหว่องแกไปขึ้นเขา หลังๆก็กลายเป็นเฟห่งแทน) ทีนี้หว่องเคยิ่งไม่ชอบให้ลูกชายใช้กังฟู เพราะเกรงว่าจะทำใหตัวเองและคนอื่นๆลำบาก
เฟห่งมักจะอยู่กับไซเหว่งซึ่งเป็นคนขายเนื้อในตลาด ในเมืองที่เฟห่งอยู่นั้น จะมีหลายสำนักที่สอนกังฟู มีอยู่สำนักหนึ่งก่อตั้งโดยต่ายสิ่วทีน ศิษย์พี่ของเฟห่ง เขาถือว่าหว่องเค่ยิ่งเป็นศัตรูเพราะไม่ยอมสอนวิชาประจำตระกูลของเขา (ก่อนที่พ่อของต่ายสิ่วทีนจะตาย ได้ฝากคัมภีร์ไว้กับหว่องเค่ยิ่ง) เขาจึงแยกตัวออกมา แล้วก่อตั้งสำนักเพื่อแข่งกับอาจารย์ตัวเอง
น้องสาวต่ายสิ่วทีน สิวเหท่งชอบเฟห่งตั้งแต่ยังเด็ก แต่เธอไม่รู้ว่าเขาชอบเธอหรือเปล่า เธอมีเพื่อนสนิทชื่อไกวหล่านซึ่งปลอมตัวเป็นผู้ชายไปทำงานแบกของต่างๆนานา ระหว่างที่พี่สาวบุญธรรมเล่นดนตรีในโรงนางรำ
แต่แล้วเฟห่งก็รู้ความจริงว่าไกวหล่านเป็นผู้หญิงเมื่อเขาพยายามจะแย่งถุงเงิน ที่เขานึกว่าเธอขโมยจากป้าแก่คนหนึ่ง หลังจากวันนั้น เฟห่งจึงช่วยหาเงินให้ไกวหล่าน เพื่อที่เธอและพี่สาวจะได้ออกมาอยู่อย่างอิสระ ในขณะเดียวกัน ต่ายสิ่วทีนก็ตกหลุมรักหยกหยี่ พี่สาวไกวหล่าน แล้วช่วยเหลือเธอในสิ่งที่เขาทำได้
หลังจากที่หว่องเค่ยิ่งเริ่มเปิดร้านขายยาของเขา ผู้ว่าการ(ระดับจังหวัด)ก็ขอร้องให้หว่องเค่ยิ่งเป็นหัวหน้าแกนนำนักกังฟูในเมือง ซึ่งเขาจะคุมคนเพื่อออกคุมพื้นที่ ป้องกันโจรภูเขา ไม่ให้โจมตีหมู่บ้านต่างๆ ชื่อเสียงของต่ายสิ่วทีนก็เริ่มตกต่ำ เพราะเขาแพ้เฟห่งในการแข่งเชิดสิงโต ทำให้สำนักอื่นดูถูกเขา เขาจึงต้องใช้เล่ห์เพื่อที่จะได้ชื่อเสียงกลับมา
ไกวหล่านเป็นเด็กกำพร้า เธอกำลังตามหาพ่อแม่ที่แท้จริง โดยที่มีผ้าแผ่นหนึ่งซึ่งสามารถบอกว่าเธอเป็นลูกใคร เธอมักจะไปสวดมนต์ที่วัดแห่งหนึ่งซึ่งแม่แท้ๆของเธอไปเป็นประจำ (ไปสวดเพื่อที่จะได้เจอกับลูกสาวที่พลัดพรากไป)
ตอนแรกไกวหล่านไม่ทราบว่าผู้หญิงคนนี้เป็นแม่ของเธอ แต่เธอก็สนิทกับหล่อนเพราะช่วยเอาถุงเงินที่โดนขโมยไปคืน แม่ของเธอก็เอ็นดูไกวหล่านเพราะว่าอายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกสาว เธอจึงไปไหนมาไหนกับไกวหล่านบ่อยๆ
พฤติกรรมนี้ทำให้สามีหล่อนไม่พอใจ เพราะกลัวว่าไกวหล่านจะหลอกเอาเงินจากเธอ เขาจึงห้ามให้ไกวหล่านพบกับแม่ของเธอ วันหนึ่งไกวหล่านไปที่บ้านแม่ของเธอ และพบผ้าผืนเดียวกัน (ผ้าโดนฉีกเป็นสองส่วน) กับที่เธอมี เธอจึงรู้ว่าเธอพบพ่อแม่ที่แท้จริงแล้ว
แต่แล้วผ้าผืนนั้นของเธอก็หายไป (โดนยายของอากีนฉกไป -- --") ทำให้เธอเศร้าใจมาก เฟห่งเห็นว่าเธอร้องไห้ไม่สบายใจจึงพยายามไปบอกพ่อแม่ของเธอ แต่ก็โดนไล่ออกมา ทำให้ไกวหล่านโกรธเฟห่งมาก
เฟห่งจึงพยายามตามหาผ้าผืนนั้น ทั้งวันทั้งคืน (ลงเอยด้วยการไปกลางภูเขา แล้วขุดดิน -- --" เพราะคุณยายแกเล่นซ่อนใต้ดิน) พอหาผ้าผืนนั้นเจอ เขาก็ดันพลัดตกลงจากภูเขาทำให้เขาเอาไปให้ไกวหล่านไม่ได้ จึงฝากอากีนไปให้เธอ
ไกวหล่านก็เข้าใจผิด นึกว่าอากีนช่วยหาผ้าผืนนี้ พอเฟห่งรู้ว่าอากีนไม่ได้บอกความจริงแก่ไกวหล่านก็โมโห บอกให้อากีนพูดความจริง แต่ไกวหล่านก็หาว่าเฟห่งไม่มีสิทธิ์พูดแบบนั้นกับอากีน แล้วเธอก็โกรธเฟห่งมากกว่าเดิม (อากีนชอบไกวหล่าน)
... (ชักจะยาวเกินไปแล้วแฮะ)
ท้ายสุด เรื่องก็จบแบบแฮปปี้ .. และมันก็ขำๆดี
เรื่องนี้สอนหลายเรื่องเหมือนกัน
- อย่าหยิ่งทะนงตัว คิดว่าตัวเองดีที่สุดและถูกเสมอ เพราะท้ายสุดแล้ว คนที่เรารักมากที่สุด จะทนไม่ได้และเดินจากไป
- อย่าคิดว่าเงินซื้อได้ทุกอย่าง ใช้จ่ายเงินอย่างประหยัด อย่าคิดแต่ว่าใช้ๆๆ พอเงินหมด ไม่มีที่ซุกหัวนอน คนที่เดือดร้อนไม่ใช่ตัวเอง แต่เป็นพ่อแม่ต่างหาก
- ไม่มีอะไรที่เราได้มาง่ายๆโดยไม่ลงทุนลงแรง เงินทุกสตางค์นั้นแลกด้วยหยาดเหงื่อของตัวเอง หรือไม่ก็พ่อแม่
- อย่าคาดหวังจากอีกฝ่ายมากเกินไป เวลาที่คนบอกว่า "ชอบ" อาจจะชอบแบบพี่น้อง ไม่ใช่แบบคนรัก ทางที่ดี พูดกันให้รู้เรื่องทั้งสองฝ่าย ฯลฯ
สรุปแล้ว...เรื่องนี้เหมาะกับการชม สนุกและก็สอนใจดี (เสียดายที่ไม่ได้รางวัล...)
* หลังจากดูเรื่องนี้ คุณจะชอบบอสโก้มากขึ้น 20%